OKRs เครื่องมือใหม่ดีกว่า KPI ใช่ไหม?
SPM - 07
#OKRsคืออะไรดีกว่าKPIsจริงหรือ?
.........................
OKRs เป็นเครื่องมือการบริหารผลงาน
ที่มีพื้นฐานต่อยอดมาจาก MBO
O ย่อมาจาก Objective
หรือวัตถุประสงค์
หมายถึงสิ่งที่ต้องการ
KRs ย่อมาจาก Key Results
เรียกว่าผลลัพธ์ที่สำคัญ
หมายถึง ตัวชี้วัดความสำเร็จ
ของวัตถุประสงค์
ปกติจะมีจำนวน 3 ข้อต่อหนึ่งวัตถุประสงค์
จริงๆแล้ว OKRs ก็ไม่แตกต่าง
จากเครื่องมือยี่ห้ออื่นๆไม่ว่า
BSC, MBO,KPI
แต่เด่นดังขึ้นมาเพราะมาถูกที่ถูกเวลา
และองค์กรดังๆใช้แล้วได้ผล
โดยเฉพาะองค์กรเทคโนโลยี
อย่างเช่น กูเกิล ยูทูป
#จุดเด่นของ OKRs
- ทำให้องค์กรเติบโตแบบก้าวกระโดดได้จริง
- ตั้งเป้าที่โคตรท้าทายกว่าเครื่องมือยี่ห้ออื่นๆ
- ไม่ยึดติดกับการนำไปจ่ายผลตอบแทนแบบตรงๆ
- ไม่ลืมสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำงานไปพร้อมๆกับการตั้งเป้าหมาย
#จุดที่พึงระวัง
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับองค์กรที่ไม่สามารถตั้งเป้าหมายให้ท้าทายอะไรได้มากมาย เช่น โรงงานผลิตสินค้าให้บริษัทแม่ในต่างประเทศ
- หากนำมาใช้ผิดๆ เช่น นำเฉพาะเรื่องตั้งเป้าหมายยากๆมาใช้โดยไม่ได้สร้างวัฒนธรรมองค์กร ไม่พัฒนากระบวนการพูดคุยให้ดีแล้ว อาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
- การยกเลิกการเชื่อมโยง OKRs กับผลตอบแทน อาจจะไม่เวิร์คในสังคมคนทำงานในเมืองไทย เพราะคนทำงานในบ้านเรามาทำงานก็เพราะผลตอบแทนเป็นหลัก ไม่ใช่ตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตเรื่องความก้าวหน้าในอาชีพ หรือประสบการณ์เพื่อนำไปทำธุรกิจตัวเอง
- OKRs ยังไม่มีรูปแบบหรือ Template ที่ชัดเจนเหมือน Balanced scroecard ดังนั้น หากนำมาใช้โดยไม่มีขั้นตอนที่ชัดเจน อาจจะทำให้ไม่ได้ผลหรือได้ผลน้อยกว่า Balanced Scorecard, MBO, KPIs
- คนไทยกำลังต้องการอะไรที่ชัดเจนมากขึ้นๆ เช่น ต้องวัดได้ จับต้องได้ มีการกำหนดเป้าหมาย ระดับผลงาน เกรดของผลงาน ผลตอบแทนที่ชัดเจน มากกว่าที่จะย้อนกลับไปใช้ดุลยพินิจประกอบผลงาน ซึ่งอาจจะย้อนศรกับ OKRs ที่บอกว่าไม่ใช้แค่ตัวเลขผลงานที่เกิดขึ้น แต่ให้พิจารณาจากมิติอื่นๆที่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เป็นตัวเลขเพียงอย่างเดียว เช่น ปัจจัยภายนอก บทเรียนที่ได้ ความพยายามที่ทุ่มเทไป การพูดคุย ฯลฯ
ณรงค์วิทย์ แสนทอง
#StrategicPerformanceConsultant
#OKRsคืออะไรดีกว่าKPIsจริงหรือ?
.........................
OKRs เป็นเครื่องมือการบริหารผลงาน
ที่มีพื้นฐานต่อยอดมาจาก MBO
O ย่อมาจาก Objective
หรือวัตถุประสงค์
หมายถึงสิ่งที่ต้องการ
KRs ย่อมาจาก Key Results
เรียกว่าผลลัพธ์ที่สำคัญ
หมายถึง ตัวชี้วัดความสำเร็จ
ของวัตถุประสงค์
ปกติจะมีจำนวน 3 ข้อต่อหนึ่งวัตถุประสงค์
จริงๆแล้ว OKRs ก็ไม่แตกต่าง
จากเครื่องมือยี่ห้ออื่นๆไม่ว่า
BSC, MBO,KPI
แต่เด่นดังขึ้นมาเพราะมาถูกที่ถูกเวลา
และองค์กรดังๆใช้แล้วได้ผล
โดยเฉพาะองค์กรเทคโนโลยี
อย่างเช่น กูเกิล ยูทูป
#จุดเด่นของ OKRs
- ทำให้องค์กรเติบโตแบบก้าวกระโดดได้จริง
- ตั้งเป้าที่โคตรท้าทายกว่าเครื่องมือยี่ห้ออื่นๆ
- ไม่ยึดติดกับการนำไปจ่ายผลตอบแทนแบบตรงๆ
- ไม่ลืมสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำงานไปพร้อมๆกับการตั้งเป้าหมาย
#จุดที่พึงระวัง
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับองค์กรที่ไม่สามารถตั้งเป้าหมายให้ท้าทายอะไรได้มากมาย เช่น โรงงานผลิตสินค้าให้บริษัทแม่ในต่างประเทศ
- หากนำมาใช้ผิดๆ เช่น นำเฉพาะเรื่องตั้งเป้าหมายยากๆมาใช้โดยไม่ได้สร้างวัฒนธรรมองค์กร ไม่พัฒนากระบวนการพูดคุยให้ดีแล้ว อาจจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี
- การยกเลิกการเชื่อมโยง OKRs กับผลตอบแทน อาจจะไม่เวิร์คในสังคมคนทำงานในเมืองไทย เพราะคนทำงานในบ้านเรามาทำงานก็เพราะผลตอบแทนเป็นหลัก ไม่ใช่ตอบโจทย์เป้าหมายชีวิตเรื่องความก้าวหน้าในอาชีพ หรือประสบการณ์เพื่อนำไปทำธุรกิจตัวเอง
- OKRs ยังไม่มีรูปแบบหรือ Template ที่ชัดเจนเหมือน Balanced scroecard ดังนั้น หากนำมาใช้โดยไม่มีขั้นตอนที่ชัดเจน อาจจะทำให้ไม่ได้ผลหรือได้ผลน้อยกว่า Balanced Scorecard, MBO, KPIs
- คนไทยกำลังต้องการอะไรที่ชัดเจนมากขึ้นๆ เช่น ต้องวัดได้ จับต้องได้ มีการกำหนดเป้าหมาย ระดับผลงาน เกรดของผลงาน ผลตอบแทนที่ชัดเจน มากกว่าที่จะย้อนกลับไปใช้ดุลยพินิจประกอบผลงาน ซึ่งอาจจะย้อนศรกับ OKRs ที่บอกว่าไม่ใช้แค่ตัวเลขผลงานที่เกิดขึ้น แต่ให้พิจารณาจากมิติอื่นๆที่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เป็นตัวเลขเพียงอย่างเดียว เช่น ปัจจัยภายนอก บทเรียนที่ได้ ความพยายามที่ทุ่มเทไป การพูดคุย ฯลฯ
ณรงค์วิทย์ แสนทอง
#StrategicPerformanceConsultant
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น