วิวัฒนาการของระบบการบริหารผลงาน
SPM-02
#ที่มาที่ไปของระบบการบริหารผลงานเชิงกลยุทธ์
................................................
#อดีต
เจ้าของหรือผู้บริหาร
เป็นคนกำหนดเป้าหมายองค์กร
ทุกหน่วยงานทุกคนทำตามจบ
ระบบที่ต้องการคือ
ระบบการประเมินผลงานประจำปี
เพื่อนำไปใช้ในการปรับเงินเดือน
จ่ายโบนัสพนักงานเท่านั้นก็พอ
เราจะเป็นใบประเมินผลงานงาน
ที่มีหัวข้อเหมือนกันทุกตำแหน่ง
จะแบ่งระดับบ้างในบางองค์กร
หัวข้อเหมือนเดิมทุกปี เช่น
คุณภาพงาน
ปริมาณงาน
ความรับผิดชอบ
ฯลฯ
และมีเรื่องเวลาการมาทำงาน
ซึ่งเหมาะสมกับยุคสมัยหนึ่ง
ที่เจ้าของ ผู้บริหารควบคุมได้ทุกเรื่อง
อยากรู้แค่ว่าจะปรับเงินเดือน
จ่ายโบนัสให้ใครมากกว่ากันเท่านั้น
#ปัจจุบัน
ผู้บริหารเป็นคนกำหนดเป้าหมายองค์กร
กระจายเป้าหมายองค์กรสู่หน่วยงาน
ตำแหน่งงาน และรายบุคคล
โดยที่เป้าหมายจะต้องสอดคล้องกัน
กับเป้าหมายองค์กร
ระบบการบริหารผลงานจึงจำเป็นต้อง
ขยายขอบเขตไปถึงการกำหนดเป้าหมายองค์กร
การจัดทำแผนงานรองรับ การจัดงบประมาณ
การบริหารความเสี่ยง เพื่อทำให้เป้าหมาย
ทั้งองค์กรสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ระบบการบริหารผลงานจึงรวมเอา
- การวางแผนกลยุทธ์(Strategic Planning)
- การจัดทำงบประมาณประจำปี(Budgeting)
- การประเมินผลงานพนักงาน(Performance Appraisal)
เข้าด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อให้ตอบโจทย์เรื่อง
ผลงานองค์กรที่แท้จริง
#อนาคต
ธุรกิจเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
ระบบการบริหารผลงานแบบปัจจุบัน
ที่กำหนดเป้าหมายกันยาวๆเป็นปี
อาจจะย่นระยะเวลารอบการประเมินผลงาน
ให้เหลือแค่ 6 เดือนหรือ 3 เดือน
เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
และการบริหารผลงานไม่เน้นเพียงเรื่อง
การกำหนดเป้าหมาย การจัดทำแผนรองรับ
การปรับแต่งเป้าหมายให้สอดคล้องกัน
แต่ยังรวมไปถึงการให้ความสำคัญกับเรื่อง
วัฒนธรรมองค์กร เป้าหมายชีวิตพนักงาน
การสร้างแรงจูงใจ การพูดคุย โค้ชชิ่ง
การสื่อสารภายในองค์กร
ในอนาคตระบบการบริหารผลงาน
คือระบบที่เป็นหัวใจสำคัญขององค์กร
เพราะทุกอย่างจะไปสะท้อนที่ระบบนี้ทั้งหมด
ไม่ว่าใครจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
สุดท้ายจะต้องไปดูที่ผลกระทบสูงสุดต่อองค์กร
ณรงค์วิทย์ แสนทอง
#StrategicPerformanceConsultant
#ที่มาที่ไปของระบบการบริหารผลงานเชิงกลยุทธ์
................................................
#อดีต
เจ้าของหรือผู้บริหาร
เป็นคนกำหนดเป้าหมายองค์กร
ทุกหน่วยงานทุกคนทำตามจบ
ระบบที่ต้องการคือ
ระบบการประเมินผลงานประจำปี
เพื่อนำไปใช้ในการปรับเงินเดือน
จ่ายโบนัสพนักงานเท่านั้นก็พอ
เราจะเป็นใบประเมินผลงานงาน
ที่มีหัวข้อเหมือนกันทุกตำแหน่ง
จะแบ่งระดับบ้างในบางองค์กร
หัวข้อเหมือนเดิมทุกปี เช่น
คุณภาพงาน
ปริมาณงาน
ความรับผิดชอบ
ฯลฯ
และมีเรื่องเวลาการมาทำงาน
ซึ่งเหมาะสมกับยุคสมัยหนึ่ง
ที่เจ้าของ ผู้บริหารควบคุมได้ทุกเรื่อง
อยากรู้แค่ว่าจะปรับเงินเดือน
จ่ายโบนัสให้ใครมากกว่ากันเท่านั้น
#ปัจจุบัน
ผู้บริหารเป็นคนกำหนดเป้าหมายองค์กร
กระจายเป้าหมายองค์กรสู่หน่วยงาน
ตำแหน่งงาน และรายบุคคล
โดยที่เป้าหมายจะต้องสอดคล้องกัน
กับเป้าหมายองค์กร
ระบบการบริหารผลงานจึงจำเป็นต้อง
ขยายขอบเขตไปถึงการกำหนดเป้าหมายองค์กร
การจัดทำแผนงานรองรับ การจัดงบประมาณ
การบริหารความเสี่ยง เพื่อทำให้เป้าหมาย
ทั้งองค์กรสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ระบบการบริหารผลงานจึงรวมเอา
- การวางแผนกลยุทธ์(Strategic Planning)
- การจัดทำงบประมาณประจำปี(Budgeting)
- การประเมินผลงานพนักงาน(Performance Appraisal)
เข้าด้วยกัน ทั้งนี้เพื่อให้ตอบโจทย์เรื่อง
ผลงานองค์กรที่แท้จริง
#อนาคต
ธุรกิจเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
ระบบการบริหารผลงานแบบปัจจุบัน
ที่กำหนดเป้าหมายกันยาวๆเป็นปี
อาจจะย่นระยะเวลารอบการประเมินผลงาน
ให้เหลือแค่ 6 เดือนหรือ 3 เดือน
เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
และการบริหารผลงานไม่เน้นเพียงเรื่อง
การกำหนดเป้าหมาย การจัดทำแผนรองรับ
การปรับแต่งเป้าหมายให้สอดคล้องกัน
แต่ยังรวมไปถึงการให้ความสำคัญกับเรื่อง
วัฒนธรรมองค์กร เป้าหมายชีวิตพนักงาน
การสร้างแรงจูงใจ การพูดคุย โค้ชชิ่ง
การสื่อสารภายในองค์กร
ในอนาคตระบบการบริหารผลงาน
คือระบบที่เป็นหัวใจสำคัญขององค์กร
เพราะทุกอย่างจะไปสะท้อนที่ระบบนี้ทั้งหมด
ไม่ว่าใครจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
สุดท้ายจะต้องไปดูที่ผลกระทบสูงสุดต่อองค์กร
ณรงค์วิทย์ แสนทอง
#StrategicPerformanceConsultant
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น